23 ส.ค. 66 – นายเศรษฐา ทวีสิน เข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำตั้งใจทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ประชาชน พร้อมให้ความมั่นใจ 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มายังห้องโถง ชั้น 7 ณ อาคารที่ทำการพรรคเพื่อไทย
พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ทั้งหมดมีอยู่ทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ


นายเศรษฐา กล่าวภายหลังเข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการฯ ตอนหนึ่งว่า ในวาระที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งในวันนี้ ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณประชาชน ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ตลอดจนภาคประชาสังคม เอกชน สำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ มั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตนมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคการต่างประเทศ ทำให้ทั้งภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน มีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์ เคารพความแตกต่างทางความคิด และเคารพกฎกติกาในกรอบระเบียบและกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงและตรงไปตรงมา
ทั้งนี้ ขอให้คำมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานอย่างหนักเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข นำพาความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่ม อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้งหนึ่ง
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง