11 ส.ค. 66 – รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยอมรับแกนนำพรรคเพื่อไทยชวนร่วมรัฐบาลจริง ระบุหากเข้าร่วมต้องไปทั้งพรรค พร้อมยืนยันไม่มีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่ามีการชักชวนเข้าร่วมรัฐบาล โดยระบุว่าตนกับนายสมศักดิ์เป็นเหมือนครอบครัว แม้จะอยู่คนละพรรค แต่ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิม ได้พูดคุยและพบกันบ่อยครั้ง โดยคุยกันว่าหากไปร่วมรัฐบาลก็ต้องไปทั้งพรรค ซึ่งการเชิญชวนครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณมาทางตน แต่คนที่จะเจรจา คือ หัวหน้าพรรค ตนจึงทำได้แค่ส่งสัญญาณให้พรรคทราบว่าทิศทางการเมืองเป็นแบบนี้ ส่วนการตัดสินใจทางพรรคอาจได้ประสานงานกันอยู่แล้ว แต่ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้บอก ซึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้บอกว่าคุยกับหัวหน้าพรรคหรือเลขาพรรคแล้วหรือไม่ แต่เท่าที่ดูมีสัญญาณที่ดี เชื่อว่าการเมืองใกล้ถึงจุดที่จะจบแล้ว โดยเท่าที่ดูบริบทต่าง ๆ คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในเวลาที่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีเงื่อนไขเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า พรรคมี สส. ทำงานในสภาผู้แทนราษฎร 36 คน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนการเจรจาต่อรองต่าง ๆ คงจะไม่มี เพราะมีเพียง 36 คน ไม่ใช่มีเป็นหลักร้อยคน มีการพูดคุยกัน แต่คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร ย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติพรรค หากจะออกมาเป็นอย่างไร สส. ทั้ง 36 คน พร้อมทำตาม และแม้ว่าวันนี้อาจจะมองว่ามีปัญหาในพรรคหรือแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ นั้น เพราะมาจากหลากหลายความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าคุยกันได้
นายธนกร ยังกล่าวถึงพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้จะประกาศวางมือทางการเมืองและไม่เกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว แต่ก็ได้ไปปรึกษาในหลายเรื่อง เพราะอยู่กับพลเอก ประยุทธ์ มานาน ยังได้ปรึกษาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ แนะนำในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
ส่วนกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองตัดหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นความชัดเจน ตนเข้าใจว่ามีการเจรจาหารือกันอยู่แล้ว คงไม่ไปก้าวล่วง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการตั้งรัฐบาลควรจะมีความชัดเจนก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ทุกอย่างคงจะต้องจบก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี การเจรจาไม่ว่าจะแสดงออกมาในภาพฉากทัศน์ใด แต่เชื่อว่าลึก ๆ แล้วสื่อมวลชนก็ทราบดีว่าจะต้องมีการเจรจากันก่อน เพราะฉะนั้นจะไม่จบ แต่หากมีการคุยนอกรอบก่อนและเจรจาจบแล้ว ทุกอย่างก็จะจบตามกระบวนการ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วการเมือง เพื่อตั้งรัฐบาล แต่ก็ยังพูดคุยกับพรรคก้าวไกล นายธนกร ระบุว่า ต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ส่วนตัวมองว่าอาจจะถึงเวลาที่ความขัดแย้งต่าง ๆ ควรจะยุติได้แล้ว และไม่ว่าพรรคใดก็ควรจะร่วมกันบริหารประเทศ มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ส่วนตัวคิดว่าบางพรรคก็เหมาะสมที่จะเป็นฝ่ายค้าน เพราะมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ จะทำให้การเมืองมีความเข้มข้นมากขึ้น และเป็นการถ่วงดุลอำนาจให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง