5 ส.ค. 66 – สส.นพดล พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้กระทำผิดหลีกเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมถูกตรวจสอบข้อเท็จจริง เชื่อไม่กระทบเสนอชื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
นายนพดล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หลีกเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินทำรัฐเสียหายหลายร้อยล้านบาทว่า ในฐานะที่ตนเป็นนักกฎหมายได้รับฟังข้อมูลแล้วเห็นว่า ข้อกล่าวหาของนายชูวิทย์ที่กล่าวหาว่านายเศรษฐาเกี่ยวข้องในการเลี่ยงภาษีนั้น คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เพราะนายเศรษฐาไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา คือไม่ได้สมรู้ร่วมคิดหรือเป็นตัวการสนับสนุนให้มีการเลี่ยงภาษีใดๆ ดังนั้นจึงไม่มีมูล เนื่องจากบริษัทแสนสิริเป็นผู้ซื้อที่ดิน หน้าที่ในการชำระภาษีจากค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับเป็นหน้าที่ของผู้ขาย ส่วนผู้ซื้อมีหน้าที่ไปรับโอนและชำระเงินค่าที่ดินเท่านั้น และหากใครต้องการตรวจสอบว่าผู้ขายเลี่ยงภาษี ขอให้ไปถามกรมสรรพากร เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ยิ่งเร็วยิ่งดี
นายนพดล กล่าวต่อว่า ที่กล่าวหาว่ามีนิติกรรมอำพรางนั้น ตนไม่เห็นว่าจะมีนิติกรรมอำพรางแต่อย่างใด การโอนที่ดินให้แสนสิริเป็นการซื้อขายที่ดินปกติที่ทำกันเปิดเผย ตรงไปตรงมาที่กรมที่ดิน มีการบันทึกการซื้อขาย เสียภาษีที่กรมที่ดิน ส่วนที่กล่าวหาว่านายเศรษฐาไปเกี่ยวข้องในการเลี่ยงภาษีโดยอ้างรายงานการประชุมนั้น ข้อเท็จจริงคือนายเศรษฐา เข้าประชุมรับทราบการที่แสนสิริจะไปซื้อที่ดิน โดยเป็นการประชุมครั้งเดียวในการอนุมัติเงินในการซื้อ เพราะฉะนั้นนายเศรษฐาไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับการโอนที่ดินหรือการดำเนินการใดๆของฝ่ายผู้ขาย
ส่วนมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการดิสเครดิต นายเศรษฐาหรือไม่ ตนมองว่า ถ้ามีใครรู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ น่าจะมีการเปิดเผยตั้งนานแล้ว ซึ่งการมาเปิดเผยในช่วงที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะเสนอนายเศรษฐาเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ทำให้มองเป็นเรื่องอย่างอื่นยากนอกจากเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลจะไม่กระทบการเดินหน้าเสนอชื่อนายเศรษฐาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ซึ่งนายเศรษฐาพร้อมถูกตรวจสอบหากมีกรณีการร้องเรียน
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง