3 ส.ค.66 – สส.ชัยวัฒน์ พรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แนะ ปรับปรุงระบบร้องทุกข์ทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เชื่อมต่อกับการรับแจ้งเหตุของสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถระงับธุรกรรมที่เข้าข่ายการกระทำผิดได้ทันท่วงที
นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนเห็นด้วยกันการออก พ.ร.ก.ดังกล่าว เพื่อให้มีมาตรการจัดการปัญหาการฉ้อโกง ซึ่งมีลักษณะการโอนทรัพย์สินผ่านบัญชีเป็นทอดๆ เพื่ออำพรางการกระทำผิด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้บรรลุตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะว่า กรณีที่มีผู้เสียหายแจ้งสถาบันการเงินว่ามีธุรกรรมที่เข้าข่ายเกิดขึ้น และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้วยังต้องให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ภายใน 72 ชั่วโมง ในส่วนนี้เห็นว่า ควรกำหนดให้มีระบบร้องทุกข์ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกระบวนการรับแจ้งของสถาบันการเงินได้เลย เนื่องจากมาตรา 8 กำหนดให้การแจ้งข้อมูลและการร้องทุกข์ทำโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และกระบวนการรับแจ้งข้อมูล ควรมีการเชื่อมต่อกระบวนการทำงานของแต่ละหน่วยงานผ่านระบบด้วย เช่น ธนาคารพาณิชย์ ตำรวจ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นต้น ทั้งนี้ขอฝากให้ธนาคารพาณิชย์ พัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ สามารถระงับธุรกรรมได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิผล
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง